จองตั๋วเครื่องบินแล้วทำไมไม่ได้ขึ้นเครื่อง? Thailand Only? และสิทธิที่พึงรู้

ปัจจุบันการเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากมีสายการบินต้นทุนต่ำมากมายให้เราเลือกใช้บริการ ทั้งการเดินทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ ปัญหาที่ผู้โดยสารพบเจอจากการเดินทางด้วยเครื่องบินนั้น มีทั้งเที่ยวบินล่าช้า เที่ยวบินถูกยกเลิก รวมถึงการ Check-in แล้วไม่ได้เดินทาง (Denied boarding) สำหรับปัญหาการ Check-in แล้วไม่ได้เดินทางนั้นมีที่มาจาก 2 สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกคือ ถูกปฏิเสธการเดินทางจากเหตุผลอันสมควร เช่น สุขภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เอกสารการเดินทางไม่สมบูรณ์ สาเหตุที่สองเกิดจากการที่สายการบินให้จองตั๋วมากกว่าจำนวนที่นั่งที่มีอยู่หรือที่เรียกว่านโยบายการจองเกิน (Overbooking)

นโยบายการจองเกินถือเป็นนโยบายสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกสำหรับธุรกิจที่มีทรัพยากรอยู่อย่างจำกัด เช่น สายการบิน โรงแรม สำหรับสายการบินนั้น มีการใช้นโยบายการจองเกินกันอย่างแพร่หลายมาเป็นเวลานานแล้ว บทความนี้จะอธิบายถึงที่มาที่ไปที่ทำให้สายการบินเลือกใช้นโยบายการจองเกินในการเพิ่มรายได้ให้สายการบิน ข้อดีและข้อเสียสำหรับผู้โดยสารจากการเลือกใช้นโยบายการจองเกินของสายการบิน

สายการบินเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีการลงทุนสูงมาก โดยต้นทุนแรกของสายการบินที่เราเห็นได้ชัดเจนคือค่าเครื่องบิน ซึ่งแต่ละสายการบินก็จะเลือกใช้เครื่องบินแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่แล้วสายการบินที่ทำการบินภายในประเทศเรานั้นจะใช้เครื่องบินจาก 2 บริษัทคือ Airbus และ Boeing มีราคาเครื่องต่อลำโดยคิดอัตราแลกเปลี่ยน 35 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ ดังนี้

เครื่องบิน ราคาเฉลี่ย (ล้านบาท)
Airbus A-319 3,136
Airbus A-320 3,430
Airbus 330 8,974
Airbus 380-800 15,141
Boeing 737-800 3,360
Boeing 737-900ER 3,566.5
Boeing 777-200ER 9,705.5
Boeing 777-300ER 11,886
Boeing 787-8 7,861

ที่มา
Airbus: http://www.airbus.com/presscentre/pressreleases/press-release-detail/detail/new-airbus-aircraft-list-prices-for-2015/
Boeing: http://www.boeing.com/company/about-bca/

ต้นทุนที่สำคัญต่อมาคือน้ำมันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในการบิน โดยปริมาณน้ำมันที่ใช้ก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทและขนาดของเครื่องบิน โดยเครื่องบินแต่ละประเภทสามารถบรรจุน้ำมันเต็มความจุได้โดยประมาณดังนี้

เครื่องบิน

ปริมาณน้ำมัน(ลิตร)

Airbus A319 29,840
Airbus A320 29,680
Airbus A330 97,530
Airbus A380 320,000
Boeing 737 26,020
Boeing 777-200ER 171,177
Boeing 777-300ER 181,283
Boeing 787-8 126,000

นอกจากค่าเครื่องบินและค่าน้ำมันแล้วยังมีค่าบำรุงรักษาเครื่องบิน ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่องบินนั้นต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ นั่นหมายความว่า ไม่ว่าเครื่องบินจะขึ้นบินหรือจอดอยู่เฉยๆ สายการบินจะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าสึกหรอของเครื่องบิน นี่ยังไม่รวมถึงค่าจ้างพนักงาน ค่าอำนวยการบิน เบี้ยประกันชีวิตของผู้โดยสาร และอื่น ๆ อีกมากมาย

เราลองคำนวณดูเล่น ๆ ว่า หากสายการบินใช้เครื่องบิน Airbus A320 ที่จุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 180 คนต่อเที่ยว (โดยประมาณ) โดยทุกที่นั่งมีค่าตั๋วราคาเดียวกันทั้งหมด สมมติเป็น 2,000 บาท และทุกเที่ยวบินมีผู้โดยสารเต็ม นั่นคือ สายการบินจะมีรายได้ 360,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากคิดต้นทุนของสายการบินเพียงแค่ค่าเครื่องบิน เครื่องบินลำนี้ต้องขึ้นบินประมาณ 9,528 เที่ยวจึงจะเท่ากับราคาเครื่องบินที่ซื้อมา แต่ในความเป็นจริงนั้นต้นทุนหลักของสายการบินคือน้ำมัน โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของต้นทุนดำเนินงานทั้งหมดเป็นต้นทุนที่มาจากน้ำมัน ฉะนั้นหากเรารวมต้นทุนทั้งหมดทั้งค่าเครื่องบิน ค่าน้ำมัน ค่าจ้างพนักงาน เบี้ยประกันชีวิตของผู้โดยสาร และค่าอำนวยการบินอื่น ๆ รวมถึงค่าเสียโอกาสกรณีที่ผู้โดยสารไม่เต็มลำ จำนวนเที่ยวบินที่จะทำให้สายการบินคุ้มทุนก็จะมากกว่า 9,528 เที่ยว ฉะนั้น สายการบินย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีรายได้มากที่สุดในการขึ้นบิน 1 เที่ยว

นโยบายการจองเกินเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับสายการบิน โดยอาศัยพฤติกรรมของผู้โดยสารที่มักจองตั๋วแล้วไม่มาขึ้นเครื่องโดยไม่มีการแจ้งยกเลิก หรือที่เราเรียกว่า No-show จากเดิมที่สายการบินสามารถขายตั๋วได้มากที่สุดเท่ากับจำนวนที่นั่งบนเครื่อง แต่เมื่อใช้นโยบายการจองเกินเราอาจสามารถขายตั๋วได้มากกว่านั้น จากงานวิจัยของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์กล่าวว่า ผู้โดยสารที่ No-show และยกเลิกการเดินทาง (Cancellation) อาจมีจำนวนสูงถึง 50% และ 15% ของที่นั่งจะว่างหากไม่มีการใช้นโยบายการจองเกิน การเปิดจองเกินนั้นตามหลักการแล้วไม่ได้เปิดรับไปเรื่อย ๆ ตามความพึงพอใจของสายการบิน แต่เปิดจองโดยใช้ข้อมูลทางสถิติที่ทางสายการบินได้บันทึกไว้ ว่าแต่ละช่วงเวลา แต่ละเที่ยวบินจะมีผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องกี่เปอร์เซ็นต์ No-show กี่เปอร์เซ็นต์  โดยความน่าจะเป็นในการมาหรือไม่มาขึ้นเครื่องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วันเวลาของเที่ยวบิน ต้นทางและปลายทาง ประเภทของตั๋วที่จองว่ามีอัตราการคืนค่าตั๋วอย่างไรหากมาไม่ทันหรือเลื่อนเที่ยวบิน  ลักษณะการจองเป็นกลุ่มหรือคณะทัวร์ที่หากมีการยกเลิกการจองก็มักจะยกเลิกเป็นจำนวนหลาย ๆ ที่นั่งพร้อมกัน เป็นต้น จากนั้นจึงนำค่าความน่าจะเป็นดังกล่าวไปคำนวณว่าในแต่ละเที่ยวบินควรเปิดให้จองเกินได้กี่ที่นั่ง เพื่อให้จำนวนผู้โดยสารที่ อาจจะ ถูกปฏิเสธการเดินทางไม่มากจนเกินไป

สำหรับเกณฑ์ของจำนวนผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทางขึ้นอยู่กับนโยบายของสายการบิน และอาจขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศ (ถ้ามี) ในประเทศสหรัฐอเมริกาทางกระทรวงคมนาคมกำหนดไว้ว่า

  • จำนวนผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทางโดยไม่สมัครใจนั้นต้องมีค่าระหว่าง 0.5 ถึง 1.5 คนต่อผู้โดยสาร 10,000 คน
  • จำนวนผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทางโดยสมัครใจต้องมีค่าระหว่าง 15 ถึง 20 คน ต่อผู้โดยสาร 10,000 คน

หากเปรียบเทียบความน่าจะเป็นที่เราจะถูกปฏิเสธการเดินทางโดยไม่สมัครใจกับการโยนเหรียญหรือโยนลูกเต๋าพบว่า เกณฑ์ดังกล่าวเทียบเท่ากับการที่เราโยนเหรียญ 1 เหรียญ 13 ครั้ง แล้วได้หัวทั้งหมด หรือเท่ากับการที่เราโยนลูกเต๋า 1 ลูก 5 ครั้งแล้วออกหน้า 1 แต้มทุกครั้ง นอกจากการกำหนดเกณฑ์ดังกล่าวแล้วทางกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกายังเผยแพร่สถิติสัดส่วนของผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทางทั้งโดยสมัครใจและไม่สมัครใจของสายการบินต่างๆ ลงในเวบไซต์ของกระทรวงเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อมูลดังกล่าวประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการเดินทาง และประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกปฏิเสธการเดินทางจากสายการบินนั้นๆ สำหรับประเทศไทยนั้นยังไม่ทราบเกณฑ์ที่แน่ชัด

จากการใช้นโยบายการจองเกินของสายการบินนั้น ทำให้เรามีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธการเดินทางโดยไม่สมัครใจ ทั้งๆ ที่เรา Check-in เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าโอกาสดังกล่าวจะถูกกำหนดให้เกิดขึ้นน้อยมาก (สำหรับประเทศที่มีเกณฑ์กำหนดไว้ชัดเจน) แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ และหากเกิดขึ้นคงทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจ ไม่สะดวกสบายกับผู้โดยสารอย่างเราๆ แต่ใช่ว่าการใช้นโยบายการจองเกินจะมีแต่ข้อเสีย ข้อดีที่เราได้จากการใช้นโยบายการจองเกินอย่างแรกคือ ค่าตั๋วเครื่องบินที่ถูกลง ซึ่งผู้โดยสารบางท่านอาจไม่ทราบว่าราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกลงนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่สายการบินใช้นโยบายการจองเกิน จากที่ได้กล่าวไปข้างต้น ต้นทุนในการบินต่อเที่ยวบินนั้นค่อนข้างคงที่และไม่ได้ขึ้นกับจำนวนผู้โดยสาร ดังนั้นหากเที่ยวบินใดมีผู้โดยสารมาก รายได้ก็จะมากขึ้นและส่งผลให้กำไรมากขึ้นเช่นกัน แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้โดยสารจำนวนหนึ่งที่จองแล้วไม่มาขึ้นเครื่อง (และยังคงได้รับค่าตั๋วบางส่วนคืน) ทำให้สายการบินสูญเสียรายได้บางส่วนไป สายการบินจึงชดเชยรายได้ส่วนนี้ด้วยการใช้นโยบายการจองเกินเพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร (โดยไม่เพิ่มราคาตั๋ว) แต่หากไม่มีการใช้นโยบายการจองเกิน เที่ยวบินอาจจะไม่เต็ม แต่ต้นทุนในการบินต่อเที่ยวเช่น ค่าน้ำมัน ค่าจ้างพนักงานแทบจะไม่ได้ลดลงเลย สายการบินก็คงจะเพิ่มค่าตั๋วเพื่อให้รายได้ต่อเที่ยวเท่าเดิม ข้อดีข้อต่อมาคือ ได้รับค่าชดเชย (compensation) จากสายการบิน ในที่นี้หมายรวมถึงที่ได้รับเป็นเงินและไม่ใช่เงิน สำหรับประเทศที่มีเกณฑ์สัดส่วนผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทางโดยไม่เต็มใจ เช่น สหรัฐอเมริกา แม้ว่าในเที่ยวบินนั้นจะมีการจองเกินเกือบ 20 ที่นั่ง แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกปฏิเสธการเดินทางโดยไม่สมัครใจ ส่วนที่เหลือนั้นพึงพอใจกับค่าชดเชยที่สายการบินจัดหาให้ทั้งที่เป็นเงินสดและทางเลือกอื่น เช่น การอัพเกรดที่นั่ง โดยส่วนใหญ่ที่นั่งที่มีการจองเกินนั้นจะเป็นที่นั่งในชั้นประหยัดหรือชั้นธุรกิจ ดังนั้นหากที่นั่งในส่วนดังกล่าวเต็ม ผู้โดยสารบางท่านอาจได้อัพเกรดที่นั่งไปชั้นหนึ่ง (first class) โดยจ่ายค่าตั๋วเท่าชั้นประหยัด ในเที่ยวบินระหว่างประเทศนั้น มีกรณีที่นักเรียนนอกบางคนถึงขั้นตั้งใจมา Check-in ช้าเพื่อที่จะถูกปฏิเสธการเดินทาง แลกกับการได้อัพเกรดที่นั่งไปเป็นชั้นหนึ่งในเที่ยวบินนั้นหรือเที่ยวบินต่อไป

หากผู้โดยสารต้องการทราบว่าสายการบินที่เราใช้บริการหรือกำลังจะใช้บริการนั้น มีการใช้นโยบายการจองเกินหรือไม่ และเราจะได้รับการชดเชยอะไรบ้างในกรณีที่เราเป็นผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทาง สามารถตรวจสอบได้จากประกาศ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการบิน (Term and conditions) ของทางสายการบิน ตามตัวอย่างประกาศของบางสายการบินเรื่องการใช้นโยบายการจองเกินและสิทธิประโยชน์ที่ผู้โดยสารจะได้รับ ดังนี้

การบินไทย (Thai airways)

DENIED BOARDING:  Flights may be overbooked, and there is a slight chance that a seat will not be available on a flight even if you have a confirmed reservation.  In most circumstances, if you are denied boarding involuntarily, you are entitled to compensation.  When required by applicable law, the carrier must solicit volunteers before anyone is denied boarding involuntarily.  Check with your carrier for the complete rules on payment of denied boarding compensation (DBC) and for information on the carrier’s boarding priorities.

 

การปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง

เที่ยวบินอาจมีการจองเกินจำนวนและมีความเป็นไปได้ที่จะไม่มีที่นั่งว่างบนเที่ยวบินแม้ว่าคุณจะยืนยันการจองแล้วก็ตาม ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ หากคุณถูกปฏิเสธให้ขึ้นเครื่องโดยไม่สมัครใจ คุณมีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย เมื่อจำเป็นต้องใช้กฎหมายที่มีผลบังคับใช้ สายการบินจะต้องขออาสาสมัครก่อนที่จะมีใครก็ตามถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องโดยไม่สมัครใจ ตรวจสอบกับสายการบินของคุณเรื่องกฎการจ่ายเงินชดเชยทั้งหมดที่เกี่ยวกับการปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง (DBC) และข้อมูลเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญการขึ้นเครื่องของสายการบิน

ที่มา: http://www.thaiairways.com/en/Terms_condition/conditions_of_contract.page

 

ไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia)

Unavailability of Seat: There is a chance a seat may not be available for you on your flight even if your booking is confirmed. This is due to the common practice in the airline industry of overbooking. In the event of such unavailability of seat, we shall at our option, either:

a) carry you at the earliest opportunity on another of our scheduled services on which space is available without additional charge and, where necessary, extend the validity of your booking; or

b) should you choose to travel at another time, retain the value of your fare in a credit account for your future travel provided that you must re-book within three (3) months therefrom.

 

ความจำกัดของที่นั่ง:

แม้ว่าผู้โดยสารจะได้สำรองที่นั่งกับสายการบินแอร์เอเชียแล้ว อย่างไรก็ตามอาจเกิดเหตุการณ์ที่ท่านไม่สามารถเดินทางไปกับเที่ยวบินดัง กล่าวได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ทางด้านการบิน ในกรณีดังกล่าวสายการบินจะดำเนินการดังนี้

ก. อนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางไปกับเที่ยวบินต่อไป หากยังมีที่นั่งเหลือ หรือเปลี่ยนเที่ยวบินให้ โดยผู้โดยสารไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หรือ

ข. ผู้โดยสารสามารถเลือกเที่ยวบินที่จะเดินทางได้ตามอัธยาศัย ตามมูลค่าของบัตรโดยสารนั้น ซึ่งผู้โดยสารจะต้องทำการสำรองที่นั่งใหม่ภายในระยะเวลาสาม (3) เดือน

ที่มา: http://www.airasia.com/th/en/about-us/terms-and-conditions-fd.page

 

บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways)

DENIED BOARDING: Flights may be overbooked, and there is a slight chance that a seat will not be available on a flight even if you have a confirmed reservation. In most circumstances, if you are denied boarding involuntarily, you are entitled to compensation. When required by applicable law, the carrier must solicit volunteers before anyone is denied boarding involuntarily. Check with your carrier for the complete rules on payment of denied boarding compensation (DBC) and for information on the carrier’s boarding priorities.

ที่มา: https://www.bangkokair.com/pages/conditions/conditions-of-carriage

  

โอเรียนไทย (Orient Thai Airlines)

Denied Boarding Compensation: If we are unable to provide previously confirmed space, we shall provide the first available flight even on other airlines to those passengers denied boarding. However, NO other compensation will be provided by us.

ที่มา: http://www.flyorientthai.com/terms-conditions/

 

สำหรับขั้นตอนการปฏิเสธการเดินทางของผู้โดยสารนั้น ทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ซึ่งเป็นหน่วยงานพิเศษของสหประชาชาติที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวางระเบียบข้อบังคับ สำหรับกิจกรรมการบินระหว่างประเทศระหว่างชาติ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าหากสายการบินต้องมีการปฏิเสธการเดินทางของผู้โดยสาร สายการบินต้องมีการประกาศหาผู้โดยสารที่ยินดีที่จะถูกปฏิเสธการเดินทางโดยสมัครใจ (Voluntary) ก่อน จึงจะสามารถปฏิเสธการเดินทางของผู้โดยสารที่ไม่สมัครใจ (Involuntary) ได้ ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ICAO จึงต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ดังกล่าว (ที่มา: http://www.icao.int/Meetings/atconf6/Documents/Doc%209587_en.pdf) สำหรับผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทางจะได้รับค่าชดเชยต่างๆ ตามที่สายการบินกำหนดหรือหากทางสายการบินไม่มีข้อกำหนดใดๆ สำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางบินภายในประเทศยึดเกณฑ์การชดเชยตามประกาศของกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางการบินภายในประเทศ ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2553

(ที่มา: http://www.aviation.go.th/th/gov_law/218/745.html)โดยสรุปดังนี้

  • สิทธิได้รับเงินชดเชยเป็นเงินสด จำนวน 1,200 บาท ทันที่ก่อนที่ผู้โดยสารจะออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง
  • สิทธิที่จะได้รับค่าโดยสารคืน เปลี่ยนแปลงเที่ยวบินหรือเดินทางโดยการขนส่งทางอื่น ซึ่งสายการบินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • สิทธิได้รับการดูแลเรื่องอาหาร เครื่องดื่มตามความเหมาะสม โทรศัพท์/โทรสาร/e-mail ตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงที่พักพร้อมรับส่งในกรณีที่เที่ยวบินมีกำหนดเวลาการออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดเดิมเกินกว่า 1 วัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ซึ่งเกณฑ์การชดเชยต่าง ๆ ของกระทรวงคมนาคมนั้นยึดตามคู่มือที่ทาง ICAO ประกาศไว้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นสำหรับ 190 ประเทศที่เป็นสมาชิก ICAO จำเป็นต้องยึดหลักการปฏิบัติเดียวกัน

ในมุมมองของผู้บริโภคเราอย่างเราๆ นั้น เมื่อรู้ว่าทางสายการบินมีการใช้นโยบายการจองเกิน เราคงรู้สึกว่าสายการบินกำลังเอาเปรียบเราอย่างแน่นอน แต่เมื่อเรามองถึงต้นทุนมหาศาลของสายการบินและความต้องการของสายการบินที่จะทำให้ตั๋วโดยสารมีราคาถูกลงและเข้าถึงได้สำหรับผู้โดยสารทุกกลุ่มแล้วนั้น การบริหารจัดการรายได้จากพฤติกรรมของผู้โดยสารส่วนหนึ่งที่มีการวางแผนการเดินทางที่ไม่ดีพอจนต้อง No-show จะทำให้ผู้โดยสารที่มีความต้องการเดินทางที่แน่นอนได้ตั๋วโดยสารในราคาไม่สูงจนเกินไปนั้น ก็จะดูสมเหตุสมผลในการเลือกใช้นโยบายการจองเกินมากขึ้น แต่หากเราเคราะห์ร้ายถูกปฏิเสธการเดินทางอย่างไม่เต็มใจแล้ว เราควรจะทราบถึงสิทธิที่พึงได้อย่างน้อยตามที่ระเบียบกำหนดหรือมากกว่านั้นตามแต่สายการบินจะมีการเสนอให้ มากกว่าการเรียกร้องการชดเชยโดยใช้อารมณ์ นี่ยังไม่รวมถึงหากเราเป็นผู้โดยสารที่อยู่ ๆ ได้อัพเกรดที่นั่งไปชั้นหนึ่ง เพราะที่นั่งในชั้นประหยัดหรือชั้นธุรกิจที่เราจองมานั้นเต็มจากการใช้นโยบายการจองเกิน เราก็คงไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบแต่อย่างใด สุดท้ายนี้ตราบใดที่ยังมีผู้โดยสารที่จองตั๋วแล้วไม่มาขึ้นเครื่อง (และยังคงได้รับค่าโดยสารบางส่วนคืน) สิ่งที่ผู้โดยสารต้องการน่าจะเป็นเกณฑ์สัดส่วนของผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการเดินทางโดยไม่สมัครใจที่ชัดเจนจากภาครัฐเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสาร มากกว่าการห้ามไม่ให้มีการใช้นโยบายการจองเกิน

หมายเหตุ ข้อมูล ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2559

 

มูรตี สมบูรณ์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.กาญจ์นภา อมรัชกุล
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

เผยแพร่ครั้งแรก ผู้จัดการ Online คอลัมน์ Intelligence & Information วันที่ 23 พฤษภาคม 2559